สายพันธุ์ของวัว
1.
โคเนื้อ
-
โคพันธุ์ชาโรเลส์(Charolais) เป็นโคสายพันธุ์ยุโรปมีแหล่งกาเนิดอยู่ทางตอนกลางของประเทศฝรั่งเศสโครงร่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมช่วงลาตัวยาวและแน่นทึบกล้ามเนื้อส่วนสันหลังช่วงต้นขาและไหล่เจริญดีมาก
- โคพื้นเมืองโคพื้นเมืองของไทยมีลักษณะใกล้เคียงกับโคพื้นเมืองของประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชียลักษณะรูปร่างกะทัดรัดลาตัวเล็กขาเรียวเล็กยาวเพศผู้มีหนอกขนาดเล็กมีเหนียงคอแต่ไม่หย่อนยานมากหูเล็กหนังใต้ท้องเรียบมีสีไม่แน่นอนเช่นสีแดงอ่อนเหลืองอ่อนดาขาวนวลน้าตาลอ่อน
- โคพันธุ์แองกัส(Angus) มีถิ่นกาเนิดอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสก๊อตแลนด์เป็นโคขนาดกลางถึงเล็กโคพันธุ์นี้จะมีสีดาตลอดตัวไม่มีเขาถึงวัยเจริญเร็ว
- โคพันธุ์บราห์มัน(brahman) พันธุ์นี้ที่เลี้ยงในบ้านเราส่วนใหญ่นาเข้ามาจากสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียแล้วนามาคัดเลือกปรับปรุงพันธุ์โดยกรมปศุสัตว์และฟาร์มของเกษตรกรรายใหญ่ในประเทศเป็นโคที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ลาตัวกว้างยาวและลึกได้สัดส่วนหลังตรงหนอกใหญ่หูใหญ่ยาวจมูกริมฝีปากขนตากีบเท้าและหนังเป็นสีดาเหนียงทีคอและหนังใต้ท้องหย่อนยานโคนหางใหญ่พู่หางสีดาสีจะมีสีเขาเทาและแดง
วิธีการเลี้ยง
เลี้ยงโดยการให้อาหารให้หญ้าจะทาให้โคตัวใหญ่
ลักษณะโรงเรือน
มีลักษณะโล่งโปร่งรางอาหารกับรางให้น้าควรอยู่ในที่ร่มและอยู่ภายนอกโรงเรือนเพื่อให้โคเนื้อลอดหัวออกมากินหญ้า
หรือน้าที่ราง
อาหาร
อาหารหยาบโคเป็นสัตว์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์จากอาหารหยาบเป็นหลัก
อาหารข้นอาหารข้นหมายถึงอาหารที่มีความเข้มข้นทางโภชนะอยู่สูงโดยเฉพาะโปรตีนมีเปอร์เซนต์เยื่อใยต่าเมื่อสัตว์กินเข้าไปสามารถย่อยได้ง่ายจาแนกเป็น 1) อาหารชนิดเดียวเช่นราปลายข้าวข้าวโพดบดกากถั่วเหลืองกากถั่วลิสงกากปาล์มฯลฯ 2) อาหารข้นสาเร็จรูปนาวัตถุดิบอย่างอื่นมาผสมอีกอาจอยู่ในรูปอาหารผงหรืออัดเม็ดก็ได้ส่วนใหญ่
ประกอบด้วยราปลายข้าวหรือข้าวโพดบด 3) หัวอาหารเป็นอาหารที่ประกอบด้วยอาหารโปรตีนสูงผสมกันเช่นกากถั่วเหลือง 4) อาหารสาเร็จรูปเป็นอาหารผสมระหว่างอาหารหยาบและอาหารข้นสามารถนาไปใช้เลี้ยงโคได้เลยโดยไม่ต้องให้อาหารหยาบอีกเช่นหญ้าสดวิธีการเลี้ยงและการดูแลรักษาโรคโรคที่มักจะเกิดขึ้นกับโคเนื้อส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรคทั่วๆไปอย่างปากเท้าเปื่อยและพยาธิด้วยความที่คุณขวัญยืนทางานอยู่ในกรมปศุสัตว์จึงได้เปรียบในเรื่องการรักษาโรคต่างๆเกี่ยวกับสัตว์เพราะมีความรู้ความชานาญเฉพาะทางอย่างโรคปากเท้าเปื่อยที่เกิดขึ้นกับโคของตนจะมีการรักษาโดยฉีดยาป้องกัน 6 เดือนครั้งส่วนพยาธิจะฉีดยาถ่ายพยาธิและให้ยาบารุงเป็นการรักษา
ช่องทางการจัดจาหน่าย
ตลาดโคในจังหวัดและที่อื่น
2.โคนม
- พันธุ์โฮลสไตน์ลักษณะมีสีขาวดาข้อขาและพู่หางต้องมีสีขาวจึงจะได้รับการรับรองพันธุ์หากมีสีดาเลยเข่ามาจะไม่ได้รับการจดเป็นพันธุ์แท้เป็นโคขนาดใหญ่ให้น้านมดี
- พันธุ์เยอรมันบราวน์มีสีน้าตาลเข้มทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีกว่าโคในยุโรปด้วยกันทนต่อโรคแมลงให้น้านมเฉลี่ยแล้วปีละ 4,500-5,000 กิโลกรัมถึงจะทนร้อนได้ดีกว่าพันธุ์อื่นแต่เมื่อมาอยู่ในเขตร้อนแล้วมักจะให้น้านมที่ต่ากว่าตอนอยู่ในอากาศเย็น
วิธีการเลี้ยงโคนม
การเลี้ยงโคนมเลี้ยงไว้เพื่อรีดนมแต่การให้น้านมจะให้หลังจากแม่โคคลอดลูกและมีระยะเวลาในการให้น้านมประมาณ 10 เดือน
ลักษณะของโรงเรือน
ลูกโค -ประมาณ -หย่านมควรได้รับอาหารข้น 2-3 กิโลต่อวัน -โปรดตีนประมาณ 8-20% หรือหญ้าหมักได้กินเต็มที -นมผงชงละลายควรได้รับประมาณวันละ 8 กิโลกรัมต่อวันโครุ่น
-ควรได้รับอาหารข้น 4 กิโลกรัมต่อตัวต่อวัน -โปรตีน 15% ต่อตัวต่อวัน - หญ้า - แร่ธาตุโคสาว -โคเริ่มท้องอาหารข้น 4 กิโลกรัมต่อตัวต่อวันเหมือนโครุ่น -โปรตีน 15% ต่อตัวต่อวัน -ก่อนคลอด 2เดือนควรให้อาหารข้นสูตรโปรตีน 19% ประมาณวันละ 8กิโลกรัมต่อตัวต่อวัน
การให้อาหาร
ให้อาหารที่มีคุณภาพดีและมีจานวนเพียงพอถ้าให้อาหารไม่ถูกต้องเพียงพอหรือให้อาหารเสื่อมคุณภาพหรือมีสิ่งปลอมปนอาจทาให้โคเป็นโรคไข้น้านม, โรคขาดอาหารรวมทั้งทาให้อ่อนแอเกิดโรคอื่นๆได้ง่ายขึ้นดังนั้นเกษตรกรควรซื้ออาหารจากแหล่งที่เชื่อถือได้และระวังอาหารที่เป็นพิษเช่นมีเชื้อราพืชที่พ่นยาฆ่าแมลงเป็นต้น
วิธีการดูแลโรคติดต่อ
โรคเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทาความเสียหายให้แก่ผู้เลี้ยงโคนมไม่น้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคติดต่อร้ายแรงซึ่งถ้าเกิดขึ้นกับฟาร์มใดอาจทาให้ถึงกับต้องเลิกล้มกิจการได้การป้องกันโรคโคนมควรปฏิบัติดังต่อไปนี้เลี้ยงแต่โคที่แข็งแรงสมบูรณ์และปลอดจากโรคไม่ควรเลี้ยงโคที่อ่อนแอโคที่เป็นเรื้อรังรักษาไม่หายขาดโรคทางกรรมพันธุ์เช่นโรคไส้เลื่อน, โรคติดต่อร้ายแรงเช่นโรคแท้งติดต่อหรือวัณโรคเป็นต้น
ช่องทางการจัดจาหน่าย
ตลาดโคตามพื้นที่
3.โคพื้นเมือง
โคพื้นเมืองโคอีสาน
มีขนสั้นเกรียนโดยทั่วไปมีลาตัวสีน้าตาลแกมแดงแต่อาจมีสีแตกต่างกันหลายสีเช่นดาแดงน้าตาลขาวเหลืองเป็นต้นหน้ายายบอบบางหน้าผากแคบตะโหนกเล็กเหนียงคอและหนังใต้ท้องไม่มากนักมีรูปร่างขนาดเล็ก
โคพื้นเมืองภาคเหนือ (ขาวลาพูน)
ขาและกีบเท้ามีสีน้าตาลส้มขอบตาและเนื้อจมูกมีสีชมพูส้มขนพู่หาสีขาวไม่มีเหนียงสะดือขนาดเหนียงปานกลางไม่พับย่นมากเหมือนกับโคบราห์มัน
โคพื้นเมืองภาคใต้ (โคชน)
สีแดงสีน้าตาลอ่อนดาและด่างไม่มีเหนียงสะดือมีเหนียงคอบาง
โคพื้นเมืองภาคกลาง(โคลาน)
นิสัยเปรียวตื่นตกใจง่ายลาตัวยาวบางมีสีแดงสีน้าตาลอ่อนน้าตาลแก่ดาและด่างไม่มีเหนียงสะดือมีเหนียงคอบาง
วิธีการเลี้ยง
การเลี้ยงแม่โคให้มีสุขภาพดีเป็นปัจจัยสาคัญต่อการผสมติดของแม่โคและทาให้แม่โคให้ลูกอย่างสม่าเสมอความต้องการอาหารของแม่โคระยะต่างๆแตกต่างกันการจัดการเลี้ยงดูแม่โคสามารถจาแนกออกเป็นระยะต่างๆตามความต้องการอาหารของโคได้ 3 ระยะดังนี้ระยะที่ 1 จากคลอดลูกถึง 3-4 เดือนหลังคลอดซึ่งเป็นระยะผสมพันธุ์จนถึงตั้งท้องระยะที่ 2 ท้อง 4-6 เดือนระยะที่ 3 ท้อง 3 เดือน
ลักษณะของโรงเรือน
–
ควรเป็นที่ดอนหรือสถานที่สูงกว่าพื้นที่รอบข้างมีการระบายน้าได้ดีหรืออาจต้องถมพื้นที่ให้สูงขึ้นกว่าระดับปกติเพื่อไม่ให้น้าขังในฤดูฝน – สถานที่ควรมีทางที่รถบรรทุกสามารถเข้าออกได้เพื่อความสะดวกในการนาโคเข้าขุนและส่งตลาด – ความยาวของคอกควรอยู่ในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก
–
สถานที่สร้างโรงเรือนหากต้องการพื้นที่แปลงหญ้าควรเป็นพื้นที่เดียวกันหรือห่างกันแต่สามารถนาโคเข้าปล่อยแปลงได้สะดวก – สถานที่สร้างโรงเรือนรวมถึงพื้นที่ว่างหรือพื้นที่แปลงหญ้าควรมีพื้นที่สาหรับวางแผนขยายกิจการได้ในอนาคต
การให้อาหาร
ระยะจากคลอดลูกถึงผสมพันธุ์หากแม่โคมีน้าหนักเพิ่มขึ้นจะทาให้การผสมติดดีขึ้นและลดระยะห่างของการให้ลูกลงแต่การทาให้โคเพิ่มน้าหนักโดยให้อาหารข้นเสริมต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงถ้าให้แม่โคได้กินหญ้าอ่อนในแปลง 3-4 สัปดาห์ก่อนถึงฤดูพันธุ์แม่โคจะเริ่มทาน้าหนักเพิ่มขึ้นและมีการผสมพันธุ์ดีขึ้นเมื่อแม่โคคลอดแล้วจะกินอาหารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในตารางที่ 3 เป็นการให้อาหารแม่โคอุ้มท้องของสถานีบารุงพันธุ์สัตว์อุบลราชธานี (หน่วยบารุงพันธุ์สัตว์บุณฑริก) ซึ่งฤดูฝนจะเน้นให้แทะเล็มในแปลงหญ้าส่วนปลายฤดูหนาวและฤดูแล้งจะให้หญ้าหมักหรือฟางข้าวพร้อมเสริมด้วยอาหารข้นประมาณ 0.3 - 0.5 กก./ตัวนอกจากนี้ควรมีแร่ธาตุให้โคเลียกินตลอดปีซึ่งแร่ธาตุสามารถผสมเองได้โดยมีส่วนผสมคือกระดูกป่น : เกลือทะเลป่นในอัตราส่วน 3 : 1 ในกรณีที่กระดูกป่นหาซื้อไม่ได้อาจใช้ "ไดแคลเซียมฟอสเฟต" แทนในอัตราส่วนเดียวกันซึ่งแร่ธาตุมีประโยชน์สาหรับโคในด้านช่วยส่งเสริมให้โคมีการเจริญเติบโตเป็นไปอย่างปกติผสมติดง่ายให้ลูกที่มีสุขภาพแข็งแรงให้ลูกสม่าเสมอทุกปี
วีการดูแลโรคติดต่อ
-ป้องกันที่เป็นบ่อเกิดของโรคต้องรักษาความสะอาดการสุขาภิบาลในคอกสัตว์ที่เข้ามาใหม่ควรได้กักแยกต่างการชั่วระยะเวลาหนึ่งอย่าได้นาฝูงโดยทันทีการแยกไว้ต่างหากนี้จะช่วยสามารถป้องกันโรคบางอย่างที่จะติดต่อเข้ากับสัตว์เหล่านั้นได้ -เพิ่มความต้านทานโรคให้กับโคเพื่อให้มีความต้านทานโรคอยู่ในระดับสูงโดยวิธีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้กับโคที่เลี้ยงอยู่การเลี้ยงดูที่เอาใจใส่เป็นอย่างดีอาหารดีมีคุณภาพสูงพร้อมจัดสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
1. โคพื้นเมืองอีสาน
ที่หน่วยบารุงพันธุ์สัตว์บุณฑริกอาเภอบุณฑริกจังหวัดอุบลราชธานีและสถานีบารุงพันธุ์สัตว์ชัยภูมิจังหวัดชัยภูมิ2. โคขาวพูน
ที่สถานีบารุงพันธุ์สัตว์แพร่จังหวัดแพร่และสถานีบารุงพันธุ์สัตว์พะเยาอาเภอเมืองจังหวัดพะเยา
2. โคลาน
ศูนย์วิจัยและบารุงพันธุ์สัตว์หนองกวางอำเที่ภอโพธารามจังหวัดราชบุรี
ที่สถานีบารุงพันธุ์สัตว์นครศรีธรรมราชอาเภอร่อนพิบูลย์จังหวัดนครศรีธรรมราชสถานีบารุงพันธุ์สัตว์เทพาอาเภอเทพาจังหวัดสงขลาสถานีบารุงพันธุ์สัตว์กระบี่อาเภอเมืองจังหวัดกระบี่สถานีบารุงพันธุ์สัตว์ตรังอาเภอห้วยยอดจังหวัดตรัง
เนื้อหามากพอสมควร
ตอบลบเยี่ยมมากครับ
ตอบลบเนื้อหาดีมากค่ะ
ตอบลบ